1. หัวชาร์จแบบ Type 1 (ไม่เป็นที่นิยมในเมืองไทย)

หัวชาร์จแบบ Type 1 เป็นที่นิยมใช้ในทวีปอเมริกา และญี่ปุ่น แต่ไม่ได้รับความนิยมใช้ในเมืองไทย อีกทั้งผู้ให้บริการตู้ชาร์จในเมืองไทยยังไม่มีหัวแบบ Type 1 ให้บริการอีกด้วย

2. หัวชาร์จแบบ Type 2 (เป็นที่นิยมในเมืองไทย)

หัวชาร์จแบบ Type 2 เป็นหัวชาร์จมาตรฐานแบบ AC ที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา และได้รับความนิยมในฝั่งยุโรปด้วย และสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เข้ามาจำหน่ายบ้านเราก็เป็นหัวชาร์จแบบ Type 2 เกือบทั้งหมด ดังนั้นการจะเลือกซื้อ Home Charger ก็ควรจะเลือกให้ตรงกับการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าด้วย

สำหรับหัวชาร์จแบบ Type 2 ก็ยังแบ่งออกเป็นหัวชาร์จที่รองรับไฟ 1 เฟส สามารถจ่ายกระแสไฟได้ตั้งแต่ 3.6 kW ไปจนถึง 7.4 kW ส่วนหัวชาร์จแบบ Type 2 ที่รองรับไฟ 3 เฟสก็รองรับกระแสไฟ 11 kW ไปจนถึง 22 kW ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสเป็คของรถยนต์ไฟฟ้าที่รองรับ และด้วยการใช้กระแสไฟที่ไม่สูงนัก บวกกับตู้ชาร์จ AC มีราคาไม่สูง จึงเหมาะกับการใช้งานที่บ้าน สำนักงาน หรือร้านค้า ร้านอาหารที่ต้องการติดตั้งไว้บริการลูกค้าที่เข้ามาชาร์จรถด้วย 

3. หัวชาร์จแบบ CCS Type 2 (เป็นที่นิยมในเมืองไทย)

หัวชาร์จแบบ CCS Type 2 (Combined Charging System) เป็นหัวชาร์จมาตรฐานแบบ DC ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว รองรับการจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงได้สูงสุดถึง 360 kW (ข้อมูลปี 2564) ขึ้นอยู่กับสเป็คการจ่ายไฟของตู้ชาร์จ และรถยนต์ไฟฟ้าที่รองรับ

สำหรับความเร็วในการชาร์จของหัวชาร์จแบบ CCS Type 2 จาก 0% – 80% จะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ และกำลังการจ่ายไฟของตู้ชาร์จด้วย 

4. หัวชาร์จแบบ CHAdeMO

หัวชาร์จแบบ CHAdeMO (CHArge de MOve) เป็นหัวชาร์จเดียวที่รองรับทั้งการชาร์จแบบ AC และ DC ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น และมีรถไฟฟ้าใช้งานในบ้านเราเพียงไม่กี่รุ่นเรา อย่างเช่น Nissan Leaf และ Mitsubishi Outlander ที่เข้ามาจำหน่ายในบ้านเราก็ใช้หัวชาร์จประเภทนี้